ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส
| ฉายา | Les Bleus ("สีน้ำเงิน") L'Equipe Tricolore ("ทีมสามสี") La Sélection ("ผู้ถูกเลือก") ทีมตราไก่ (ฉายาในภาษาไทย) | ||
|---|---|---|---|
| สมาคม | สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส | ||
| สมาพันธ์ | ยูฟ่า (ยุโรป) | ||
| หัวหน้าผู้ฝึกสอน | ดีดีเย เดช็อง | ||
| ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | กี สเตฟาน | ||
| กัปตัน | อูว์โก โลริส | ||
| ติดทีมชาติสูงสุด | ลีลีย็อง ตูว์ราม (142) | ||
| ทำประตูสูงสุด | ตีแยรี อ็องรี (51) | ||
| สนามเหย้า | สตาดเดอฟร็องส์ | ||
| รหัสฟีฟ่า | FRA | ||
| อันดับฟีฟ่า | 9 | ||
| อันดับฟีฟ่าสูงสุด | 1 (พฤษภาคม ค.ศ. 2001 – พฤษภาคม ค.ศ. 2002) | ||
| อันดับฟีฟ่าต่ำสุด | 27 (กันยายน ค.ศ. 2010) | ||
| อันดับอีแอลโอ | 5 (28 มีนาคม ค.ศ. 2018) | ||
| อันดับอีแอลโอสูงสุด | 1 (กรกฎาคม ค.ศ. 2007) | ||
| อันดับอีแอลโอต่ำสุด | 44 (พฤษภาคม ค.ศ. 1928 กันยายน ค.ศ. 1930) | ||
| |||
| เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
(บรัสเซลส์, เบลเยียม; 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1904) | |||
| ชนะสูงสุด | |||
(โอแซร์, ฝรั่งเศส; 6 กันยายน ค.ศ. 1995) | |||
| แพ้สูงสุด | |||
(ลอนดอน, อังกฤษ; 22 ตุลาคม ค.ศ. 1908) | |||
| ฟุตบอลโลก | |||
| เข้าร่วม | 14 (ครั้งแรกใน 1930) | ||
| ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ, 1998 | ||
| ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป | |||
| เข้าร่วม | 8 (ครั้งแรกใน 1960) | ||
| ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ, 1984 และ 2000 | ||
| คอนเฟเดอเรชันส์คัพ | |||
| เข้าร่วม | 2 (ครั้งแรกใน 2001) | ||
| ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ, 2001 และ 2003 | ||
ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Équipe de France de football) เป็นตัวแทนทีมฟุตบอลจากประเทศฝรั่งเศส เคยเป็นชั้นนำทีมหนึ่งในทวีปยุโรป มีผลงานชนะเลิศฟุตบอลโลก 1 ครั้งใน ฟุตบอลโลก 1998 และเป็นแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ใน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2 ครั้ง ปี ค.ศ. 1984 และ ปี ค.ศ. 2000
เนื้อหา
[ซ่อน]ประวัติทีม
ทีมชาติฝรั่งเศสตั้งทีมขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1904 ในช่วงที่สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1904 โดยลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกกับเบลเยียมในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1904 ซึ่งเกมดังกล่าวจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1905 ฝรั่งเศสได้ลงเล่นในเกมระดับชาติในสนามของตนเองอย่างเป็นทางการในเกมที่พบกับสวิตเซอร์แลนด์ที่สนามปาร์กเดแพร็งส์ ต่อหน้าผู้ชมราว 500 คน และพวกเขาก็เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปด้วยคะแนน 1-0
ในปี ค.ศ. 1932 ฝรั่งเศสได้เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัย โดยเกมแรกในรายการนี้ของฝรั่งเศสคือถล่มทีมชาติเม็กซิโก 4-1 โดยลูว์เซียง โลร็อง ที่เป็นผู้ยิงประตูแรกของเกม กลายเป็นนักเตะที่ทำประตูแรกสุดของศึกฟุตบอลโลกอีกด้วย แต่ฝรั่งเศสกลับแพ้ 1-0 ใน 2 เกมต่อมากับอาร์เจนตินาและชิลี ทำให้ต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ในปี ค.ศ. 1934 ฝรั่งเศสยังคงต้องผิดหวังต่อไป เมื่อตกรอบแรกจากการแพ้ออสเตรีย แต่พวกเขาทำผลงานได้ดีอย่างผิดหูผิดตาในครั้งที่พวกเขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1938 หลังจากฝ่าด่านไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศก่อนจะแพ้ให้กับอิตาลีด้วยคะแนน 3-1
ในยุคทศวรรษที่ 1950 นับเป็นยุคทองของวงการฟุตบอลของฝรั่งเศส จากการแจ้งเกิดของนักเตะชื่อดังอย่างฌุสต์ ฟงแตน เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลก และแรมง กอปา ตำนานดาวยิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเรอัลมาดริด ในปี ค.ศ. 1958 ฝรั่งเศสสามารถคว้าอันดับ 3 จากการถล่มทีมชาติเยอรมนีตะวันตก 6-2 โดยฟงแตนยิงคนเดียว 4 ประตู
ในปี ค.ศ. 1960 ฝรั่งเศสรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เป็นครั้งแรก แต่พวกเขากลับทำได้แค่อันดับ 4 หลังจากแพ้ทีมชาติเชโกสโลวาเกีย 2-0 แต่หลังจากนั้น ฝรั่งเศสกลับดำดิ่งลงไปอย่างเห็นได้ชัดจากการที่เปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมบ่อยครั้ง รวมถึงความล้มเหลวในการผ่านเข้าไปเล่นในการแข่งขันระดับเมเจอร์หลายรายการ โดยพวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอันได้เลยในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970
เมื่อในยุคทศวรรษที่ 1980 ฝรั่งเศสกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการนำทัพของมีแชล ปลาตีนี ตัวทำเกมจอมเทคนิค และสามสุดยอดกองกลางอย่างฌ็อง ตีกานา, อาแล็ง ฌีแร็ส และลูยส์ แฟร์น็องแดซ ที่ประสานงานร่วมกันจนถูกขนานนามว่า สี่เหลี่ยมมหัศจรรย์ (Magic Square) พวกเขาพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ระดับนานาชาติได้สำเร็จในศึกยูโร 1984 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยปลาตีนีได้เป็นดาวซัลโวของรายการด้วยการยิงไปถึง 9 ประตู รวมถึงหนึ่งในประตูในเกมที่ชนะสเปนด้วยคะแนน 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ
นอกจากนี้ในปีเดียวกัน ฝรั่งเศสยังสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกปี ค.ศ. 1984 ก่อนที่จะคว้าแชมป์รางวัลอาร์เตมีโอ ฟรังกี (คอนเฟเดอเรชันส์คัพในปัจจุบัน) ในปีถัดมาทำให้พวกเขาได้รับการยกให้เป็นทีมเต็ง 1 สำหรับการครองแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 แต่แล้วก็ยังคงต้องรอตำแหน่งแชมป์ต่อไป หลังจากทำได้แค่อันดับ 3 ด้วยการแพ้เบลเยียม 4-2
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1996 ฝรั่งเศสเริ่มก้าวขึ้นมาสู่การเป็นยอดทีมของวงการลูกฟุตบอลโลก จากการที่เข้าสู่ยุคผลัดใบโดยนำนักเตะดาวรุ่งเข้ามารับใช้ชาติหลายต่อหลายคน ในยูโร 1996 ฝรั่งเศสทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ต้องหยุดอยู่ที่รอบตัดเชือกเช่นเดิมหลังจากแพ้สาธารณรัฐเช็ก ต่อมาในฟุตบอลโลก 1998 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพฝรั่งเศสสามารถระเบิดฟอร์มเก่งด้วยการถล่มบราซิล สุดยอดทีมจากฟุตบอลโลก ในนัดชิงชนะเลิศ 3-0 พร้อมทั้งคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ของทีม
ในปี ค.ศ. 2000 ฝรั่งเศสยังคงรักษาความฟอร์มที่ดีไว้ได้อย่างต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ยูโร 2000 ด้วยการชนะอิตาลี 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ภายใต้การเล่นเกมและสร้างสรรค์เกมของซีเนดีน ซีดาน สุดยอดกองกลางจอมเทคนิคของฝรั่งเศส ทำให้พวกเขาทำสถิติเป็นชาติแรกที่ครองแชมป์ทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรนัลตั้งแต่ที่เยอรมนีตะวันตกเคยทำได้เมื่อปี 1974 นอกจากนี้ฝรั่งเศสยังขึ้นไปอันดับ 1 ในการจัดอันดับโลกของฟีฟ่าอีกด้วย
อย่างไรก็ตามฝรั่งเศสเริ่มจะกลับสู่ความตกต่ำอีกครั้ง หลังจากไม่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ได้สำเร็จแต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือพวกเขาต้องหยุดอยู่ที่รอบแรกเท่านั้น ก่อนที่ผลงานจะดีขึ้นมาในยูโร 2004 โดยฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ก็ปราชัยต่อกรีซ เจ้าของแชมป์ในเวลาต่อมา
ในปี ค.ศ. 2006 ฝรั่งเศสเกือบจะไม่ผ่านไปเล่นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 แต่ยังดีที่บรรดานักเตะรุ่นเก่าที่เคยประกาศตัดสินใจอำลาทีมชาติเปลี่ยนใจกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง และพวกเขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องในรอบสุดท้าย หลังจากสู้และสามัคคีกันจนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแพ้อิตาลีจากการดวลจุดโทษไป 5-3 ไปอย่างน่าเสียดาย 2 ปีต่อมาในยูโร 2008 ฝรั่งเศสก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกครั้งหลังจากตกรอบแรก เนื่องจากถูกจับให้อยู่ในกลุ่มที่มีแต่ทีมเต็งที่จะเป็นแชมป์ โดยมีเนเธอร์แลนด์ อิตาลี และโรมาเนีย เป็นสมาชิกร่วมกลุ่มด้วยการเป็นที่ 4 ของกลุ่ม
ต่อมาในปี ค.ศ. 2010 ฝรั่งเศสต้องผิดหวังอีกครั้งหลังตกรอบแรกในการคัดเลือกทีมไปแข่งขันที่ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาภายในทีมอีกระหว่างนักเตะและผู้ฝึกสอนอีกด้วย ต่อมาในยูโร 2012 ทีมชาติฝรั่งเศสก็เริ่มทำผลงานเริ่มดีขึ้นมา โดยในรอบแบ่งกลุ่มสามารถเป็นรองแชมป์กลุ่มได้ เป็นรองเพียงอังกฤษเท่านั้น แต่แล้วในรอบสิบหกทีมสุดท้ายก็ต้องปราชัยแพ้ให้กับทีมเต็งของรายการนี้อย่างสเปนไป 2-0
ในฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้าได้ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมนีไป 0-1 ซึ่งในครั้งนั้นทีมชาติเยอรมนีก็ได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2014 และในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถสร้างผลงานผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งเป็นการผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ของทีมชาติฝรั่งเศส
ผู้เล่นชุดปัจจุบันรายชื่อผู้เล่นที่ถูกเรียกตัวเพื่อลงแข่งขันรายการฟุตบอลโลก 2018
ถูกเรียกตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้
รายชื่อผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้
| ตำแหน่ง | ผู้เล่น | วันเกิด (อายุ) | ลงเล่น | ประตู | สโมสร | ถูกเรียกครั้งล่าสุด |
|---|---|---|---|---|---|---|
| GK | สแตฟว์ ม็องด็องดา | 28 มีนาคม ค.ศ. 1985 | 16 | 0 | ฟุตบอลโลก 2014 บาดเจ็บ | |
| DF | เบอนัว เทรมูลีนัส | 28 ธันวาคม ค.ศ. 1985 | 2 | 0 | ฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง) | |
| DF | ลออิก แปแร็ง | 7 สิงหาคม ค.ศ. 1985 | 0 | 0 | ฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง) | |
| DF | เอริก อาบีดาล | 11 กันยายน ค.ศ. 1979 | 67 | 0 | v. | |
| DF | กาแอล กลีชี | 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 | 20 | 0 | v. | |
| DF | รอด ฟานี | 6 ธันวาคม ค.ศ. 1981 | 5 | 0 | v. | |
| DF | กูร์ต ซูมา | 27 ตุลาคม ค.ศ. 1994 | 0 | 0 | v. | |
| DF | อาดีล รามี | 27 ธันวาคม ค.ศ. 1985 | 26 | 1 | v. | |
| MF | ฟร็องก์ รีเบรี | 7 เมษายน ค.ศ. 1983 | 81 | 16 | ฟุตบอลโลก 2014 บาดเจ็บ | |
| MF | เกลม็อง เกรอนีเย | 7 มกราคม ค.ศ. 1991 | 5 | 0 | ฟุตบอลโลก 2014 บาดเจ็บ | |
| MF | มักซีม กอนาลง | 10 มีนาคม ค.ศ. 1989 | 6 | 0 | ฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง) | |
| MF | ดีมีทรี ปาแย็ต | 29 มีนาคม ค.ศ. 1987 | 7 | 0 | v. | |
| MF | ฌอซูว์อา กีลาวอกี | 19 กันยายน ค.ศ. 1990 | 5 | 0 | v. | |
| MF | ซามีร์ นัสรี | 26 มิถุนายน ค.ศ. 1987 | 41 | 5 | v. | |
| MF | เอเตียน กาปู | 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1988 | 7 | 1 | v. | |
| MF | ฌอแฟร กงดอกบียา | 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 | 1 | 0 | v. | |
| FW | อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต | 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 | 2 | 0 | ฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง) | |
| FW | อ็องเดร-ปีแยร์ ฌีญัก | 5 ธันวาคม ค.ศ. 1985 | 17 | 4 | v. | |
สถิติเกี่ยวกับผู้เล่น
ผู้เล่นที่ลงเล่นให้ทีมชาติมากที่สุด
แถบสีฟ้าคือผู้เล่นที่ยังคงเล่นให้ทีมชาติอยู่ในปัจจุบัน
ผู้เล่นที่ยิงประตูให้ทีมชาติมากที่สุด
แถบสีฟ้าคือผู้เล่นที่ยังคงเล่นให้ทีมชาติอยู่ในปัจจุบัน
| อันดับ | ชื่อ | ช่วงเวลา | ประตู | จำนวนนัดที่ลงเล่น | สโมสร | ค่าเฉลี่ย |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | ตีแยรี อ็องรี | 1997–2010 | 51 | 123 | อาแอส มอนาโก ยูเวนตุส อาร์เซนอล บาร์เซโลนา | 0.42 |
| 2 | มีแชล ปลาตีนี | 1976–1987 | 41 | 72 | น็องซี แซ็งต์-เตเตียน ยูเวนตุส | 0.57 |
| 3 | ดาวิด เตรเซเแก | 1998–2008 | 34 | 71 | อาแอส มอนาโก ยูเวนตุส | 0.47 |
| 4 | ซีเนดีน ซีดาน | 1994–2006 | 31 | 106 | บอร์โด ยูเวนตุส เรอัล มาดริด | 0.28 |
| 5 | ฌุสต์ ฟงแตน | 1953–1960 | 30 | 21 | โอเฌเซ นิส แร็งส์ | 1.42 |
| ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง | 1986–1995 | 30 | 54 | โอลิมปิก มาร์แซย์ เอซี มิลาน บาเยิร์น มิวนิค | 0.55 | |
| 7 | ยูริ จอร์เกฟฟ์ | 1993–2002 | 28 | 82 | อาแอส มอนาโก ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง อินเตอร์ มิลาน ไคเซอร์สเลาเทิร์น โบลตัน | 0.34 |
| 8 | การีม แบนเซมา | 2007–ปัจจุบัน | 27 | 81 | โอลิมปิก ลียง เรอัล มาดริด | 0.33 |
| 9 | ซิลแว็ง วิลตอร์ | 1999–2006 | 26 | 92 | บอร์โด อาร์เซนอล โอลิมปิก ลียง | 0.28 |
| 10 | ฌ็อง แว็งซ็อง | 1953–1961 | 22 | 46 | ลีล สตาด เดอ แร็งส์ | 0.47 |
| 11 | ฌ็อง นีกอลา | 1933–1938 | 21 | 25 | รูอ็อง | 0.84 |
| ออลีวีเย ฌีรู | 2011–ปัจจุบัน | 21 | 59 | มงเปอลีเย อาร์เซนอล | 0.38 | |
| 13 | ปอล นีกอลา | 1920–1931 | 20 | 35 | เรด สตาร์ แอฟเซ | 0.57 |
| เอริก ก็องโตนา | 1987–1995 | 20 | 45 | โอลิมปิก มาร์แซย์ มงเปอลีเย ลีดส์ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 0.38 | |
| 15 | ฌ็อง บาแร็ตต์ | 1944–1952 | 19 | 32 | ลีล | 0.57 |
| 16 | โรเฌร์ ปีอ็องโตนี | 1952–1961 | 18 | 37 | น็องซี แร็งส์ | 0.48 |
| แรมง กอปา | 1952–1962 | 18 | 45 | แร็งส์ เรอัล มาดริด | 0.40 | |
| 18 | โรล็อง บล็องก์ | 1989–2000 | 16 | 97 | มงเปอลีเย นาโปลี นีม แซ็ง-เตเตียน โอแซร์ บาร์เซโลนา โอลิมปิก มาร์แซย์ อินเตอร์ มิลาน | 0.16 |
| ฟร็องก์ รีเบรี | 2006–2014 | 16 | 81 | โอลิมปิก มาร์แซย์ บาเยิร์น มิวนิค | 0.20 | |
| 20 | เออแฌน มาแอส | 1911–1913 | 15 | 11 | เรด สตาร์ แอฟเซ | 1.36 |
| แอฟวร์ แรเวลลี | 1966–1975 | 15 | 30 | แซ็ง-เตเตียน นีซ | 0.50 | |
| ดอมีนิก รอเชโต | 1975–1986 | 15 | 49 | แซ็ง-เตเตียน ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง | 0.30 | |
| ||||||
อดีตผู้เล่นคนสำคัญ
- ฟาเบียง บาร์แตซ
- โลร็อง บล็อง
- มีแชล ปลาตีนี
- เอริก กองโตนา
- ซีเนดีน ซีดาน
- ลีลีย็อง ตูว์ราม
- ดีดีเย เดช็อง
- ฌุสต์ ฟงแตน
- ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง
- แอมานุแอล เปอตี
- ดาวิด ฌีโนลา
- รอแบร์ ปีแร็ส
- นีกอลา อาแนลกา
- ตีแยรี อ็องรี
- ดาวิด เทรเซแก
- มาร์แซล เดอซายี
- อาแล็ง ฌีแร็ส
- ฌ็อง ตีกานา
- ลูยส์ แฟร์น็องแดซ
- สเตฟาน กีวาร์ช
- แรมง กอปา
- ญูริ จอร์เกฟฟ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น