วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส

ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Jump to navigationJump to search
ฝรั่งเศส
Shirt badge/Association crest
ฉายาLes Bleus ("สีน้ำเงิน")
L'Equipe Tricolore ("ทีมสามสี")
La Sélection ("ผู้ถูกเลือก")
ทีมตราไก่ (ฉายาในภาษาไทย)
สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส
สมาพันธ์ยูฟ่า (ยุโรป)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนดีดีเย เดช็อง
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนกี สเตฟาน
กัปตันอูว์โก โลริส
ติดทีมชาติสูงสุดลีลีย็อง ตูว์ราม (142)
ทำประตูสูงสุดตีแยรี อ็องรี (51)
สนามเหย้าสตาดเดอฟร็องส์
รหัสฟีฟ่าFRA
อันดับฟีฟ่าSteady (15 มีนาคม ค.ศ. 2018)
อันดับฟีฟ่าสูงสุด(พฤษภาคม ค.ศ. 2001 – พฤษภาคม ค.ศ. 2002)
อันดับฟีฟ่าต่ำสุด27 (กันยายน ค.ศ. 2010)
อันดับอีแอลโอ(28 มีนาคม ค.ศ. 2018)
อันดับอีแอลโอสูงสุด(กรกฎาคม ค.ศ. 2007)
อันดับอีแอลโอต่ำสุด44 (พฤษภาคม ค.ศ. 1928
กันยายน ค.ศ. 1930)
สีชุดเหย้า
สีชุดเยือน
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ธงชาติเบลเยียม เบลเยียม 3–3 ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส
(บรัสเซลส์, เบลเยียม; 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1904)
ชนะสูงสุด
ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 10–0 อาเซอร์ไบจาน ธงชาติอาเซอร์ไบจาน
(โอแซร์, ฝรั่งเศส; 6 กันยายน ค.ศ. 1995)
แพ้สูงสุด
ธงชาติเดนมาร์ก เดนมาร์ก 17–1 ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส
(ลอนดอนอังกฤษ; 22 ตุลาคม ค.ศ. 1908)
ฟุตบอลโลก
เข้าร่วม14 (ครั้งแรกใน 1930)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ, 1998
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
เข้าร่วม8 (ครั้งแรกใน 1960)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ, 1984 และ 2000
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ
เข้าร่วม2 (ครั้งแรกใน 2001)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ, 2001 และ 2003
ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส (ฝรั่งเศสÉquipe de France de football) เป็นตัวแทนทีมฟุตบอลจากประเทศฝรั่งเศส เคยเป็นชั้นนำทีมหนึ่งในทวีปยุโรป มีผลงานชนะเลิศฟุตบอลโลก 1 ครั้งใน ฟุตบอลโลก 1998 และเป็นแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ใน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2 ครั้ง ปี ค.ศ. 1984 และ ปี ค.ศ. 2000

ประวัติทีม

ทีมชาติฝรั่งเศสตั้งทีมขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1904 ในช่วงที่สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1904 โดยลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกกับเบลเยียมในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1904 ซึ่งเกมดังกล่าวจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1905 ฝรั่งเศสได้ลงเล่นในเกมระดับชาติในสนามของตนเองอย่างเป็นทางการในเกมที่พบกับสวิตเซอร์แลนด์ที่สนามปาร์กเดแพร็งส์ ต่อหน้าผู้ชมราว 500 คน และพวกเขาก็เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปด้วยคะแนน 1-0
ในปี ค.ศ. 1932 ฝรั่งเศสได้เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัย โดยเกมแรกในรายการนี้ของฝรั่งเศสคือถล่มทีมชาติเม็กซิโก 4-1 โดยลูว์เซียง โลร็อง ที่เป็นผู้ยิงประตูแรกของเกม กลายเป็นนักเตะที่ทำประตูแรกสุดของศึกฟุตบอลโลกอีกด้วย แต่ฝรั่งเศสกลับแพ้ 1-0 ใน 2 เกมต่อมากับอาร์เจนตินาและชิลี ทำให้ต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ในปี ค.ศ. 1934 ฝรั่งเศสยังคงต้องผิดหวังต่อไป เมื่อตกรอบแรกจากการแพ้ออสเตรีย แต่พวกเขาทำผลงานได้ดีอย่างผิดหูผิดตาในครั้งที่พวกเขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1938 หลังจากฝ่าด่านไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศก่อนจะแพ้ให้กับอิตาลีด้วยคะแนน 3-1
ในยุคทศวรรษที่ 1950 นับเป็นยุคทองของวงการฟุตบอลของฝรั่งเศส จากการแจ้งเกิดของนักเตะชื่อดังอย่างฌุสต์ ฟงแตน เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลก และแรมง กอปา ตำนานดาวยิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเรอัลมาดริด ในปี ค.ศ. 1958 ฝรั่งเศสสามารถคว้าอันดับ 3 จากการถล่มทีมชาติเยอรมนีตะวันตก 6-2 โดยฟงแตนยิงคนเดียว 4 ประตู
ในปี ค.ศ. 1960 ฝรั่งเศสรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เป็นครั้งแรก แต่พวกเขากลับทำได้แค่อันดับ 4 หลังจากแพ้ทีมชาติเชโกสโลวาเกีย 2-0 แต่หลังจากนั้น ฝรั่งเศสกลับดำดิ่งลงไปอย่างเห็นได้ชัดจากการที่เปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมบ่อยครั้ง รวมถึงความล้มเหลวในการผ่านเข้าไปเล่นในการแข่งขันระดับเมเจอร์หลายรายการ โดยพวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอันได้เลยในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970
เมื่อในยุคทศวรรษที่ 1980 ฝรั่งเศสกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการนำทัพของมีแชล ปลาตีนี ตัวทำเกมจอมเทคนิค และสามสุดยอดกองกลางอย่างฌ็อง ตีกานาอาแล็ง ฌีแร็ส และลูยส์ แฟร์น็องแดซ ที่ประสานงานร่วมกันจนถูกขนานนามว่า สี่เหลี่ยมมหัศจรรย์ (Magic Square) พวกเขาพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ระดับนานาชาติได้สำเร็จในศึกยูโร 1984 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยปลาตีนีได้เป็นดาวซัลโวของรายการด้วยการยิงไปถึง 9 ประตู รวมถึงหนึ่งในประตูในเกมที่ชนะสเปนด้วยคะแนน 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ
นอกจากนี้ในปีเดียวกัน ฝรั่งเศสยังสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกปี ค.ศ. 1984 ก่อนที่จะคว้าแชมป์รางวัลอาร์เตมีโอ ฟรังกี (คอนเฟเดอเรชันส์คัพในปัจจุบัน) ในปีถัดมาทำให้พวกเขาได้รับการยกให้เป็นทีมเต็ง 1 สำหรับการครองแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 แต่แล้วก็ยังคงต้องรอตำแหน่งแชมป์ต่อไป หลังจากทำได้แค่อันดับ 3 ด้วยการแพ้เบลเยียม 4-2
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1996 ฝรั่งเศสเริ่มก้าวขึ้นมาสู่การเป็นยอดทีมของวงการลูกฟุตบอลโลก จากการที่เข้าสู่ยุคผลัดใบโดยนำนักเตะดาวรุ่งเข้ามารับใช้ชาติหลายต่อหลายคน ในยูโร 1996 ฝรั่งเศสทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ต้องหยุดอยู่ที่รอบตัดเชือกเช่นเดิมหลังจากแพ้สาธารณรัฐเช็ก ต่อมาในฟุตบอลโลก 1998 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพฝรั่งเศสสามารถระเบิดฟอร์มเก่งด้วยการถล่มบราซิล สุดยอดทีมจากฟุตบอลโลก ในนัดชิงชนะเลิศ 3-0 พร้อมทั้งคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ของทีม
ในปี ค.ศ. 2000 ฝรั่งเศสยังคงรักษาความฟอร์มที่ดีไว้ได้อย่างต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ยูโร 2000 ด้วยการชนะอิตาลี 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ภายใต้การเล่นเกมและสร้างสรรค์เกมของซีเนดีน ซีดาน สุดยอดกองกลางจอมเทคนิคของฝรั่งเศส ทำให้พวกเขาทำสถิติเป็นชาติแรกที่ครองแชมป์ทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรนัลตั้งแต่ที่เยอรมนีตะวันตกเคยทำได้เมื่อปี 1974 นอกจากนี้ฝรั่งเศสยังขึ้นไปอันดับ 1 ในการจัดอันดับโลกของฟีฟ่าอีกด้วย
อย่างไรก็ตามฝรั่งเศสเริ่มจะกลับสู่ความตกต่ำอีกครั้ง หลังจากไม่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ได้สำเร็จแต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือพวกเขาต้องหยุดอยู่ที่รอบแรกเท่านั้น ก่อนที่ผลงานจะดีขึ้นมาในยูโร 2004 โดยฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ก็ปราชัยต่อกรีซ เจ้าของแชมป์ในเวลาต่อมา
ในปี ค.ศ. 2006 ฝรั่งเศสเกือบจะไม่ผ่านไปเล่นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 แต่ยังดีที่บรรดานักเตะรุ่นเก่าที่เคยประกาศตัดสินใจอำลาทีมชาติเปลี่ยนใจกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง และพวกเขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องในรอบสุดท้าย หลังจากสู้และสามัคคีกันจนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแพ้อิตาลีจากการดวลจุดโทษไป 5-3 ไปอย่างน่าเสียดาย 2 ปีต่อมาในยูโร 2008 ฝรั่งเศสก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกครั้งหลังจากตกรอบแรก เนื่องจากถูกจับให้อยู่ในกลุ่มที่มีแต่ทีมเต็งที่จะเป็นแชมป์ โดยมีเนเธอร์แลนด์ อิตาลี และโรมาเนีย เป็นสมาชิกร่วมกลุ่มด้วยการเป็นที่ 4 ของกลุ่ม
ต่อมาในปี ค.ศ. 2010 ฝรั่งเศสต้องผิดหวังอีกครั้งหลังตกรอบแรกในการคัดเลือกทีมไปแข่งขันที่ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาภายในทีมอีกระหว่างนักเตะและผู้ฝึกสอนอีกด้วย ต่อมาในยูโร 2012 ทีมชาติฝรั่งเศสก็เริ่มทำผลงานเริ่มดีขึ้นมา โดยในรอบแบ่งกลุ่มสามารถเป็นรองแชมป์กลุ่มได้ เป็นรองเพียงอังกฤษเท่านั้น แต่แล้วในรอบสิบหกทีมสุดท้ายก็ต้องปราชัยแพ้ให้กับทีมเต็งของรายการนี้อย่างสเปนไป 2-0
ในฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้าได้ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมนีไป 0-1 ซึ่งในครั้งนั้นทีมชาติเยอรมนีก็ได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2014 และในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถสร้างผลงานผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งเป็นการผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ของทีมชาติฝรั่งเศส

ผู้เล่นชุดปัจจุบันรายชื่อผู้เล่นที่ถูกเรียกตัวเพื่อลงแข่งขันรายการฟุตบอลโลก 2018 

#ตำแหน่งผู้เล่นวันเกิด (อายุ)ลงเล่นประตูสโมสร
1GKอูว์โก โยริส (กัปตัน)26 ธันวาคม ค.ศ. 1986 (31 ปี)990อังกฤษ ทอตนัมฮอตสเปอร์
16GKสแตฟว์ ม็องด็องดา28 มีนาคม ค.ศ. 1985 (33 ปี)270ฝรั่งเศส ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์
23GKอาลฟงส์ อาเรออลา27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 (25 ปี)00ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง

2DFแบ็งฌาแม็ง ปาวาร์28 มีนาคม ค.ศ. 1996 (22 ปี)70เยอรมนี เฟาเอ็ฟเบ ชตุทท์การ์ท
3DFแพร็สแนล กีมแปมเบ13 สิงหาคม ค.ศ. 1995 (22 ปี)20ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
4DFราฟาแอล วาราน25 เมษายน ค.ศ. 1993 (25 ปี)432สเปน เรอัลมาดริด
5DFซามุแอล อูมตีตี14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 (24 ปี)202สเปน บาร์เซโลนา
17DFอาดีล รามี27 ธันวาคม ค.ศ. 1985 (32 ปี)351ฝรั่งเศส ออแล็งปิกลียอแน
19DFจีบรีล ซีดีเบ29 กรกฎาคม ค.ศ. 1992 (25 ปี)171ฝรั่งเศส โมนาโก
21DFลูว์กา แอร์น็องแดซ14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996 (22 ปี)60สเปน อัตเลติโกมาดริด
22DFแบ็งฌาแม็ง แมนดี17 กรกฎาคม ค.ศ. 1994 (23 ปี)70อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี

6MFปอล ปอกบา15 มีนาคม ค.ศ. 1993 (25 ปี)5510อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
8MFตอมา เลอมาร์12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 (22 ปี)123ฝรั่งเศส มอนาโก
12MFกอร็องแต็ง ตอลีโซ3 สิงหาคม ค.ศ. 1994 (23 ปี)100เยอรมนี บาเยิร์นมิวนิก
13MFอึงโกโล ก็องเต29 มีนาคม ค.ศ. 1991 (27 ปี)251อังกฤษ เชลซี
14MFแบลซ มาตุยดี9 เมษายน ค.ศ. 1987 (31 ปี)689อิตาลี ยูเวนตุส
15MFสตีแวน อึนซงซี15 ธันวาคม ค.ศ. 1988 (29 ปี)40สเปน เซบิยา

7FWอ็องตวน กรีแยซมาน21 มีนาคม ค.ศ. 1991 (27 ปี)5521สเปน อัตเลติโกมาดริด
9FWออลีวีเย ฌีรู30 กันยายน ค.ศ. 1986 (31 ปี)7531อังกฤษ เชลซี
10FWกีลียาน อึมบาเป20 ธันวาคม ค.ศ. 1998 (19 ปี)164ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
11FWอุสมาน แดมเบเล15 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 (21 ปี)132สเปน บาร์เซโลนา
18FWนาบีล แฟกีร์18 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 (24 ปี)132ฝรั่งเศส ออแล็งปิกลียอแน
20FWฟลอรีย็อง โตแว็ง26 มกราคม ค.ศ. 1993 (25 ปี)40ฝรั่งเศส ออแล็งปิกลียอแน

ถูกเรียกตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้

รายชื่อผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้
ตำแหน่งผู้เล่นวันเกิด (อายุ)ลงเล่นประตูสโมสรถูกเรียกครั้งล่าสุด
GKสแตฟว์ ม็องด็องดา28 มีนาคม ค.ศ. 1985 (33 ปี)160ฝรั่งเศส มาร์แซย์ฟุตบอลโลก 2014 บาดเจ็บ

DFเบอนัว เทรมูลีนัส28 ธันวาคม ค.ศ. 1985 (32 ปี)20ฝรั่งเศส แซ็งเตเตียนฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง)
DFลออิก แปแร็ง7 สิงหาคม ค.ศ. 1985 (32 ปี)00ฝรั่งเศส แซ็งเตเตียนฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง)
DFเอริก อาบีดาล11 กันยายน ค.ศ. 1979 (38 ปี)670โมนาโก อาแอ็ส มอนาโกv. ธงชาติยูเครน ยูเครน, 19 พฤศจิกายน 2013
DFกาแอล กลีชี26 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 (32 ปี)200อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตีv. ธงชาติยูเครน ยูเครน, 19 พฤศจิกายน 2013
DFรอด ฟานี6 ธันวาคม ค.ศ. 1981 (36 ปี)50ฝรั่งเศส มาร์แซย์v. ธงชาติฟินแลนด์ ฟินแลนด์, 15 ตุลาคม 2013
DFกูร์ต ซูมา27 ตุลาคม ค.ศ. 1994 (23 ปี)00ฝรั่งเศส แซ็งเตเตียนv. ธงชาติฟินแลนด์ ฟินแลนด์, 15 ตุลาคม 2013
DFอาดีล รามี27 ธันวาคม ค.ศ. 1985 (32 ปี)261อิตาลี เอ.ซี. มิลานv. ธงชาติเบลารุส เบลารุส, 10 กันยายน 2013

MFฟร็องก์ รีเบรี7 เมษายน ค.ศ. 1983 (35 ปี)8116เยอรมนี บาเยิร์นมิวนิกฟุตบอลโลก 2014 บาดเจ็บ
MFเกลม็อง เกรอนีเย7 มกราคม ค.ศ. 1991 (27 ปี)50ฝรั่งเศส ลียงฟุตบอลโลก 2014 บาดเจ็บ
MFมักซีม กอนาลง10 มีนาคม ค.ศ. 1989 (29 ปี)60ฝรั่งเศส ลียงฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง)
MFดีมีทรี ปาแย็ต29 มีนาคม ค.ศ. 1987 (31 ปี)70ฝรั่งเศส มาร์แซย์v. Flag of the Netherlands เนเธอร์แลนด์, 5 มีนาคม 2014
MFฌอซูว์อา กีลาวอกี19 กันยายน ค.ศ. 1990 (27 ปี)50สเปน อัตเลตีโกมาดริดv. Flag of the Netherlands เนเธอร์แลนด์, 5 มีนาคม 2014
MFซามีร์ นัสรี26 มิถุนายน ค.ศ. 1987 (31 ปี)415อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตีv. ธงชาติยูเครน ยูเครน, 19 พฤศจิกายน 2013
MFเอเตียน กาปู11 กรกฎาคม ค.ศ. 1988 (30 ปี)71อังกฤษ ทอตนัมฮอตสเปอร์v. ธงชาติเบลารุส เบลารุส, 10 กันยายน 2013
MFฌอแฟร กงดอกบียา15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 (25 ปี)10โมนาโก อาแอ็ส มอนาโกv. ธงชาติเบลารุส เบลารุส, 10 กันยายน 2013

FWอาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต28 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 (27 ปี)20ฝรั่งเศส ลียงฟุตบอลโลก 2014 (สำรอง)
FWอ็องเดร-ปีแยร์ ฌีญัก5 ธันวาคม ค.ศ. 1985 (32 ปี)174ฝรั่งเศส มาร์แซย์v. ธงชาติเบลารุส เบลารุส, 10 กันยายน 2013

สถิติเกี่ยวกับผู้เล่น

ผู้เล่นที่ลงเล่นให้ทีมชาติมากที่สุด

แถบสีฟ้าคือผู้เล่นที่ยังคงเล่นให้ทีมชาติอยู่ในปัจจุบัน
อันดับชื่อช่วงเวลาจำนวนนัดที่ลงสนามประตูสโมสร
1ลิลิยอง ตูว์ราม1994–20081422อาแอส มอนาโก
ปาร์มา
ยูเวนตุส
บาร์เซโลนา
2ตีแยรี อ็องรี1997–201012351อาแอส มอนาโก
ยูเวนตุส
อาร์เซนอล
บาร์เซโลนา
3มาร์แซล เดอไซยี1993–20041163โอลิมปิก มาร์แซย์
เอซี มิลาน
เชลซี
4ซีเนดีน ซีดาน1994–200610831บอร์โด
ยูเวนตุส
เรอัล มาดริด
5ปาทริค วิเอรา1997–20091076อาร์เซนอล
ยูเวนตุส
อินเตอร์ มิลาน
6ดีดีเย เดช็อง1989–20001034โอลิมปิก มาร์แซย์
บอร์โด
ยูเวนตุส
เชลซี
7โรล็อง บล็องก์1989–20009716มงเปอลีเย
นาโปลี
นีมส์
แซ็ง เตเตียน
โอแซร์
บาร์เซโลนา
โอลิมปิก มาร์แซย์
อินเตอร์ มิลาน
บิเซนเต ลิซาราซู1992–2004972บอร์โด
แอธเลติก บิลเบา
บาร์เยิร์น มิวนิค
9อูว์โก โยริส2008–ปัจจุบัน960นิส
โอลิมปิก ลียง
ทอตนัม ฮอตสเปอร์
10ซิลแว็ง วิลตอร์1999–20069226บอร์โด
อาร์เซนอล
โอลิมปิก ลียง
11ฟาเบียง บาร์แตซ1994–2006870โอลิมปิก มาร์แซย์
อาแอส มอนาโก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
12วีลียาม กาลัส2002–2010845เชลซี
อาร์เซนอล
13ยูริ จอร์เกฟฟ์1993–20028228อาแอส มอนาโก
ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง
อินเตอร์ มิลาน
ไคเซอร์สเลาเทิร์น
โบลตัน
มานุแอล อมอรอส1982–1992821อาแอส มอนาโก
โอลิมปิก มาร์แซย์
15ปาทริส เอวรา2004–ปัจจุบัน810อาแอส มอนาโก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ยูเวนตุส
การีม แบนเซมา2007–ปัจจุบัน8127โอลิมปิก ลียง
เรอัล มาดริด
ฟร็องก์ รีเบรี2006–20148116โอลิมปิก มาร์แซย์
บาเยิร์น มิวนิค
18ฟลอร็อง มาลูดา2004–2012809โอลิมปิก ลียง
เชลซี
19รอแบร์ ปีแร็ส1996–20127914แม็ส
โอลิมปิก มาร์แซย์
อาร์เซนอล
20มักซิม บอซิซ1976–1986761น็องต์
แอร์เซ ปารีส
ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน, 2016[2]

ผู้เล่นที่ยิงประตูให้ทีมชาติมากที่สุด

แถบสีฟ้าคือผู้เล่นที่ยังคงเล่นให้ทีมชาติอยู่ในปัจจุบัน
อันดับชื่อช่วงเวลาประตูจำนวนนัดที่ลงเล่นสโมสรค่าเฉลี่ย
1ตีแยรี อ็องรี1997–201051123อาแอส มอนาโก
ยูเวนตุส
อาร์เซนอล
บาร์เซโลนา
0.42
2มีแชล ปลาตีนี1976–19874172น็องซี
แซ็งต์-เตเตียน
ยูเวนตุส
0.57
3ดาวิด เตรเซเแก1998–20083471อาแอส มอนาโก
ยูเวนตุส
0.47
4ซีเนดีน ซีดาน1994–200631106บอร์โด
ยูเวนตุส
เรอัล มาดริด
0.28
5ฌุสต์ ฟงแตน1953–19603021โอเฌเซ นิส
แร็งส์
1.42
ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง1986–19953054โอลิมปิก มาร์แซย์
เอซี มิลาน
บาเยิร์น มิวนิค
0.55
7ยูริ จอร์เกฟฟ์1993–20022882อาแอส มอนาโก
ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง
อินเตอร์ มิลาน
ไคเซอร์สเลาเทิร์น
โบลตัน
0.34
8การีม แบนเซมา2007–ปัจจุบัน2781โอลิมปิก ลียง
เรอัล มาดริด
0.33
9ซิลแว็ง วิลตอร์1999–20062692บอร์โด
อาร์เซนอล
โอลิมปิก ลียง
0.28
10ฌ็อง แว็งซ็อง1953–19612246ลีล
สตาด เดอ แร็งส์
0.47
11ฌ็อง นีกอลา1933–19382125รูอ็อง0.84
ออลีวีเย ฌีรู2011–ปัจจุบัน2159มงเปอลีเย
อาร์เซนอล
0.38
13ปอล นีกอลา1920–19312035เรด สตาร์ แอฟเซ0.57
เอริก ก็องโตนา1987–19952045โอลิมปิก มาร์แซย์
มงเปอลีเย
ลีดส์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
0.38
15ฌ็อง บาแร็ตต์1944–19521932ลีล0.57
16โรเฌร์ ปีอ็องโตนี1952–19611837น็องซี
แร็งส์
0.48
แรมง กอปา1952–19621845แร็งส์
เรอัล มาดริด
0.40
18โรล็อง บล็องก์1989–20001697มงเปอลีเย
นาโปลี
นีม
แซ็ง-เตเตียน
โอแซร์
บาร์เซโลนา
โอลิมปิก มาร์แซย์
อินเตอร์ มิลาน
0.16
ฟร็องก์ รีเบรี2006–20141681โอลิมปิก มาร์แซย์
บาเยิร์น มิวนิค
0.20
20เออแฌน มาแอส1911–19131511เรด สตาร์ แอฟเซ1.36
แอฟวร์ แรเวลลี1966–19751530แซ็ง-เตเตียน
นีซ
0.50
ดอมีนิก รอเชโต1975–19861549แซ็ง-เตเตียน
ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง
0.30
ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน, 2016[3]

อดีตผู้เล่นคนสำคัญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น